พ่อแม่ กำลังทำร้ายลูกด้วยกีฬาอยู่หรือเปล่า
ในสังคมยุคปัจจุบัน ครอบครัวส่วนใหญ่มีขนาดที่เล็กลง บางครอบครัวมีลูกเพียง 1 – 2 คนหรือบางครอบครัวอาจจะมีลูกเพียงคนเดียวเสียด้วยซ้ำ เมื่อพ่อแม่มีจำนวนลูกที่น้อยลง ดังนั้นพ่อแม่ก็จะทุ่มเทเลี้ยงดูลูกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลทางด้านร่างกาย ที่คอยสรรหาอาหารดีๆ มาบำรุงให้ลูกของท่านอยู่เสมอ และที่ขาดไม่ได้ในยุคนี้เลยก็คือการทุ่มเทเงินทองมากมายให้กับการพัฒนาลูกทางด้านวิชาการ ด้วยการส่งลูกไปเรียนกวดวิชาต่างๆ เพื่อหวังว่าลูกจะมีความรู้ ความสามารถ และความเป็นเลิศทางวิชาการ จนสามารถสอบแข่งขันกับคนอื่นๆ ได้
นอกเหนือจากการเรียนกวดวิชาแล้ว พ่อแม่ยังส่งให้ลูกเรียนเกี่ยวกับการเล่นกีฬาต่างๆ เช่น กีฬาฟุตบอล แบดมินตัน เทควันโด ว่ายน้ำ เป็นต้น เพื่อหวังว่าจะให้ลูกได้ออกกำลังกายและมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง การที่พ่อแม่ส่งเสริมให้ลูกเล่นกีฬานั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องดีที่จะทำให้ลูกได้ออกกำลังกาย ได้พบเจอกับเพื่อนใหม่ๆ เรียนรู้การใช้ชีวิตร่วมกับคนอื่น และสามารถเข้ากับสังคมได้อย่างดี
แต่ในอีกมุมหนึ่ง ทุกครั้งที่พ่อแม่พาลูกไปเรียนกีฬาต่างๆ คนที่เป็นพ่อแม่ก็อดที่จะเป็นห่วงลูกไม่ได้ และด้วยความเป็นห่วงลูก พ่อแม่ก็มักที่จะไปนั่งเฝ้าลูกติดขอบสนามหรือบางท่านถึงกับเข้าไปนั่งในสนามเรียนกันเลยทีเดียว….และยิ่งไปกว่านั้น นอกจากจะนั่งดูลูกเล่นแล้วยังคอยกระตุ้นลูก ด้วยการตะโกนสั่ง ตะโกนบอกให้ลูกเล่นให้ได้ตามที่พ่อแม่ต้องการ เพราะกลัวว่าลูกจะทำได้ไม่ดีเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ กลัวว่าลูกจะถูกเพื่อนๆ ในสนามล้อเลียนเวลาทำไม่ได้ตามที่ครูหรือโค้ชสอน และพ่อแม่ก็กลัวว่าลูกจะเก่งไม่เท่ากับเพื่อนๆ ในสนาม
ซึ่งสิ่งที่พ่อแม่กำลังทำอยู่นั้น เป็นการทำร้ายเด็กและกดดันเด็กเป็นอย่างมาก ทำให้เด็กบางคนเกิดความกลัวที่จะออกกำลังด้วยการเล่นกีฬา เพราะกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี กลัวว่าจะโดนพ่อแม่ดุ กลัวว่าจะทำให้พ่อแม่ผิดหวังในผลงานของตัวเองในสนาม
หยุดทำร้ายลูกด้วยการกระทำแบบนี้กันเถอะครับ เพราะวัยเด็กเป็นช่วงวัยที่เล่นกีฬาด้วยความสนุกสนาน ไม่ใช่เล่นกีฬาเพื่อเน้นส่งแข่งขัน พ่อแม่ควรที่จะปล่อยให้ลูกได้เล่นกีฬาที่ลูกชอบตามที่ใจของลูกอยากจะเล่น และให้ลูกเล่นกีฬาอย่างสนุกสนาน มีความสุข พ่อแม่ไม่ควรไปคาดหวังกับผลงานในสนามของลูกมากนัก แต่ควรที่จะนั่งดูอยู่ห่างๆ ปล่อยให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเอง พ่อแม่ควรให้กำลังใจลูกเวลาพัก เวลาลูกเหนื่อยก็คอยหาน้ำให้ลูกดื่ม ส่วนหน้าที่ในสนามควรปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครูหรือโค้ช เพราะครูหรือโค้ช ได้ถูกฝึกมาโดยเฉพาะในการถ่ายทอดวิชาความรู้และฝึกสอนให้เด็กเล่นกีฬานั้นๆ ได้อย่างดีเยี่ยม และครูหรือโค้ช ยังมีวิธีที่จะสังเกตุเด็กแต่ละคนว่า เด็กคนไหนควรจะสอนหรือฝึกแบบไหนและอย่างไร ถึงจะทำให้เด็กคนนั้นได้รับประโยชน์จากการเล่นกีฬาสูงสุด
ดังนั้นในวัยเด็ก พ่อแม่ ควรที่จะส่งเสริมให้ลูกเล่นกีฬาด้วยความสนุกสาน ผ่อนคลาย มีความสุข และมีรอยยิ้ม ในขณะที่ลูกได้เล่นกีฬานั้นๆ เชื่อเถอะครับว่าเมื่อลูกของคุณ มีความสุข คนเป็นพ่อแม่ ก็จะมีความสุขตามไปด้วยเช่นกัน พ่อแม่ลองนั่งมองดูลูกๆ เวลาเล่นกีฬากันนะครับ เราจะเห็นว่าลูกๆ ยิ้ม มีความสุข และสนุกสนานแค่ไหน ในขณะที่เขาได้เล่นกีฬาที่เขาชอบ แน่นอนคนที่เป็นพ่อแม่อย่างเราก็จะมีความสุขตามไปด้วย ผมเชื่อครับว่าพ่อแม่ หลายคนคงอดยิ้มตามลูกๆ ไม่ได้แน่นอนครับ
(เขียนโดย : โค้ชกฤษ : Smile Football Club)
Smile Football Club สอนฟุตบอลเด็กด้วยความรักและรอยยิ้ม
* แจ้งชื่อทดลองเรียนฟรี *
คลิกลิงค์นี้ได้เลยครับ https://line.me/R/ti/p/%40smfootball
ติดต่อ Line : @smfootball โทร 090-5522-865
สาขา 1. สนามฟุตบอลสามหนวด งามวงศ์วาน เปิดสอนทุกวัน เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 10.00 – 12.00 น. (ช่วงเช้า)
สาขา 2. สนามบังลงดอร์ ฟุตบอล คลับ จรัญฯ 35 เปิดสอนทุกวัน เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 16.00 – 18.00 น. (ช่วงเย็น)
สาขา 3. สนามฟุตบอลสามหนวด วัชรพล รามอินทรา 39 เปิดสอนทุกวัน เสาร์ – อาทิตย์ เวลา 13.00 – 15.00 น. (ช่วงบ่าย)
สาขา 4. สนาม Sky Kick Arena บางนา เปิดสอนวันเสาร์ 10.00-12.00 น. (ช่วงเช้า) วันอาทิตย์ 16.00-18.00 น. (ช่วงเย็น)